กองทุนรวม นับเป็นตัวเลือกหนึ่งของการลงทุนหลักทรัพย์ที่เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ เนื่องจากสามารถกระจายความเสี่ยงและลงทุนด้วยเงินจำนวนไม่มากได้ นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้นำเงินไปลงทุนให้ด้วย ทำให้นักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีความรู้และประสบการณ์สามารถลงทุนในหลักทรัพย์ได้อย่างสะดวกสบาย อย่างที่ทราบกันว่าการซื้อขายหุ้นเป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงสูงมาก สำหรับนักลงทุนมือใหม่ที่อยากลงทุนในตลาดหุ้น แต่มีทุนทรัพย์ไม่มาก รวมถึงความรู้และประสบการณ์ยังน้อย กองทุนรวมหุ้นเป็นตัวเลือกหนึ่งที่เราอยากแนะนำ
- กองทุนรวมหุ้น คือกองทุนที่เน้นการลงทุนในหุ้นของแต่ละบริษัท
- ผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการพอร์ตให้ทั้งหมด
- เหมาะสำหรับผู้ที่ยอมรับความเสี่ยงได้สูง
ภาพประกอบบทความ:อธิบายถึงความหมายของกองทุนรวมหุ้น
กองทุนรวมหุ้น คืออะไร
กองทุนรวมหุ้น หรือกองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) คือ “กองทุนรวมที่มีนโยบายนำเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญ หรือหุ้นอื่น ๆ ในตลาด” เช่น TSF-A, ASP-THEQ, KFDYNAMIC เป็นต้น ซึ่งอาจเป็นหุ้นในประเทศหรือต่างประเทศก็ได้ ซึ่งเป็นการนำเงินของนักลงทุนมาลงทุนในหุ้นของบริษัทต่างๆ
ถือเป็นการลงทุนที่สามารถคาดหวังผลตอบแทนสูงกว่ากองทุนรวมประเภทอื่น ๆ และเน้นผลตอบแทนในระยะยาวแต่ในขณะเดียวกันก็ต้องแบกรับความเสี่ยงที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน เนื่องจากหุ้นมีความผันผวนสูง ดังนั้นกองทุนรวมหุ้นจึงเหมาะกับ “นักลงทุนที่สามารถยอมรับความเสี่ยงจากการขาดทุนได้”
ภาพประกอบบทความ:อธิบายถึงรูปแบบกองทุนรวมหุ้นเหมาะกับนักลงทุนแบบไหน
จุดเด่นของการลงทุนกองทุนรวมหุ้น
- มีผู้เชี่ยวชาญลงทุนให้
เหมาะกับนักลงทุนมือใหม่ที่ไม่มีความรู้และประสบการณ์ในการลงทุน แต่อยากลงทุนในตลาดหุ้น โดยผู้จัดการกองทุนจะเป็นผู้ดูแลและบริหารจัดการพอร์ตให้ทั้งหมด
- เพิ่มทางเลือกการลงทุน
เนื่องจากเป็นการระดมเงินจากนักลงทุนหลาย ๆ คนมารวมกัน ทำให้ในกองทุนนั้น ๆ มีเงินมากพอที่จะนำไปลงทุนในตลาดหุ้นหลายประเภทได้ และเมื่อได้รับกำไรก็จะจ่ายผลตอบแทนตามสัดส่วนของการลงทุนนั้น ๆ
- ลงทุนได้โดยใช้เงินไม่มาก
หุ้นในตลาดหลักทรัพย์มีราคาขั้นต่ำค่อนข้างแพง ผู้ที่มีรายได้น้อยจึงอาจลงทุนได้ยาก กองทุนรวมหุ้นเป็นทางเลือกที่ทำให้ทุกคนสามารถเข้าถึงการลงทุนในหุ้นต่าง ๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องใช้เงินมากเท่ากับการซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์
- มีสภาพคล่องในการซื้อขาย
เพราะกองทุนรวมหุ้นจะทำการซื้อขายผ่านบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) นักลงทุนสามารถซื้อขายได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Mobile Application ตาม บลจ. นั้น ๆ ได้เลย
- กระจายความเสี่ยงได้
การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นสามารถกระจายเงินลงทุนไปยังหุ้นตัวอื่น ๆ ได้ด้วย ซึ่งจะช่วยกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตของนักลงทุน หากหุ้นตัวหนึ่งมีราคาลดลง ก็จะยังมีหุ้นตัวอื่น ๆ ที่คอยพยุงพอร์ตไว้ได้
ภาพประกอบบทความ:อธิบายความแตกต่างข้อดี-ข้อเสียของกองทุนรวมหุ้น
ความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ
ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม
นักลงทุนจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทที่จัดตั้งกองทุนนั้น ๆ โดยเงินดังกล่าวถือเป็นค่าบริหารจัดการและดำเนินงานของกองทุน หากค่าธรรมเนียมแพงก็อาจทำให้นักลงทุนเสียโอกาสในการลงทุนได้เช่นกัน
มีความยืดหยุ่นต่ำ
เนื่องจากผู้จัดการกองทุนไม่สามารถทำอะไรที่นอกเหนือจากนโยบายที่กำหนดไว้ได้ จึงทำให้ขาดความยืดหยุ่น และบางครั้งก็ส่งผลให้ขาดทุนแบบที่ไม่ควรจะเป็นด้วย
นักลงทุนไม่มีสิทธิ์ออกเสียงและตัดสินใจ
เพราะหน้าที่การดูแลและบริหารพอร์ตเป็นของผู้จัดการกองทุน ซึ่งต้องทำตามนโยบายเท่านั้น แม้ว่านักลงทุนจะเห็นโอกาสในการทำกำไร แต่ก็ไม่สามารถสั่งการหรือควบคุมพอร์ตของตัวเองได้
ความเสี่ยงของผลตอบแทน
ขึ้นชื่อว่าหุ้นย่อมมีความเสี่ยงสูง การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นสามารถทำให้นักลงทุนได้รับกำไรและขาดทุนในเวลาเดียวกัน จึงสรุปได้ว่าผลตอบแทนจากการลงทุนในกองทุนรวมหุ้นนั้นจะไม่มั่นคง
สรุปภาพรวมเกี่ยวกับกองทุนรวมหุ้น
การลงทุนในกองทุนรวมหุ้นไม่ใช่การฝากเงิน แต่เป็นการนำเงินของผู้ลงทุนหลายคนมารวมกัน จากนั้นนำไปลงทุนในตลาดหุ้น ซึ่งมีผู้จัดการกองทุนเป็นผู้คอยดูแลทุกอย่างให้นักลงทุน ด้วยความที่หุ้นมีความผันผวนอยู่ในตัวสูง จึงมีโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนสูงหรือขาดทุนได้ในเวลาเดียวกัน ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนในกองทุนรวมประเภทนี้ควรเลือกกองทุนที่ดูน่าเชื่อถือและมีแนวโน้มว่าจะได้รับผลลัพธ์ที่ดี ทั้งนี้จำเป็นต้องเผื่อใจด้วยว่าอาจจะขาดทุนมากกว่าได้กำไร
อ้างอิง
[1]https://www.set.or.th/th/education-research/education/happymoney/glossary/mutual-fund [2]https://fms.ssru.ac.th/useruploads/files/20230705/802800d7e971f806eac9308d0c9b4fa0c9630ed7.pdf [3]https://publish.sec.or.th/nrs/7226s.pdf