“ความยั่งยืน” ถูกหยิบยกมาพูดถึงแทบทุกวงการ รวมไปถึงในแวดวงการลงทุนก็เช่นเดียวกัน ด้วยปัจจัยด้านสภาวะโลกร้อน พฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจผลกระทบต่อโลกมากขึ้น และนักลงทุนมีเป้าหมายในการลงทุนกับบริษัทที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ทำให้กองทุนรวม ThaiESG เป็นที่น่าจับตามอง
มาเรียนรู้กันดีกว่าว่า ThaiESG คืออะไร มีความพิเศษที่แตกต่างจากกองทุนรวมอื่น ๆ ในตลาดอย่างไร รวมไปถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่จะได้รับจากการซื้อและถือครองกองทุน เหตุผลที่ทำไมนักลงทุนยุคใหม่สนใจกองทุนด้านความยั่งยืน และปัจจัยที่ควรใช้ในการพิจารณาเลือกกองทุน ThaiESG ที่จะทำให้คุณตัดสินใจได้ง่ายแสนง่าย
ภาพที่ 1 ThaiESG เป็นกองทุนรวมที่เน้นลงทุนในบริษัทหรือสินทรัพย์ที่ดำเนินงานสอดคล้องกับแนวทาง ESG
ทำความรู้จักกับกองทุนรวม ThaiESG
การจะเริ่มคบหาพัฒนาความสัมพันธ์กับใครสักคน ก็ต้องเริ่มต้นด้วยการทำความรู้จักกันก่อน การลงทุนก็คงไม่ต่างกัน เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่าอะไรคือ ThaiESG เพื่อให้คุณมองเห็นข้อดีที่มีอยู่ในตัว
กองทุนรวม ThaiESG คืออะไร ?
กองทุนรวมที่เน้นลงทุนในบริษัทหรือสินทรัพย์ที่ดำเนินงานสอดคล้องกับแนวทาง ESG ซึ่งให้ความสำคัญกับ 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ สิ่งแวดล้อม (Environmental), สังคม (Social) และ ธรรมาภิบาล (Governance) โดยกองทุนประเภทนี้ได้รับการออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักลงทุนที่สนใจผลตอบแทนทางการเงินควบคู่กับการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม
กองทุนรวม ThaiESG มีหลายประเภท เช่น
- กองทุนหุ้น (Equity Fund) ที่ลงทุนในบริษัทที่มีคะแนน ESG สูง
- กองทุนตราสารหนี้ (Bond Fund) ที่เน้นการลงทุนในพันธบัตรสีเขียว (Green Bonds)
- กองทุนรวมผสม (Mixed Fund) ที่ผสมผสานทั้งหุ้นและตราสารหนี้ที่ผ่านเกณฑ์ ESG
ภาพที่ 2 กองทุน ThaiESG มีจุดเด่นที่แตกต่างจากกองทุนทั่ว ๆ ไป ในหลายด้าน ๆ ควรศึกษาก่อนตัดสินใจ
จุดเด่นของกองทุน ThaiESG
เราจะไม่สามารถแยกแยะความแตกต่างของสิ่งใดได้ หากเราไม่มองไปถึงเนื้อใน การเลือกลงทุนในกองทุนรวม ThaiESG จึงต้องพิจารณาถึงจุดเด่น ด้วยการเปรียบเทียบกับกองทุนอื่น ๆ เพื่อคุณจะได้เห็นความพิเศษที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
ตารางเปรียบเทียบความแตกต่างของกองทุน ThaiESG กับกองทุนชนิดอื่นในตลาด
หัวข้อ | กองทุน ThaiESG | กองทุนทั่วไป | กองทุนเฉพาะทาง | กองทุนดัชนี |
---|---|---|---|---|
แนวคิดการลงทุน | เน้นลงทุนในบริษัทที่สอดคล้องกับหลัก ESG | มุ่งเน้นผลตอบแทนทางการเงินโดยไม่มีเงื่อนไขด้าน ESG | ลงทุนในอุตสาหกรรมหรือกลุ่มธุรกิจเฉพาะ เช่น เทคโนโลยี | ติดตามผลการดำเนินงานของดัชนีตลาดทุน เช่น SET50 |
การคัดเลือกหุ้น/สินทรัพย์ | ใช้เกณฑ์ ESG Screening เพื่อตัดสินใจลงทุน | คัดเลือกตามศักยภาพผลตอบแทนและความเสี่ยงทางการเงิน | คัดเลือกหุ้นที่อยู่ในกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย | ลงทุนในทุกหุ้นที่อยู่ในดัชนีที่อ้างอิง |
วัตถุประสงค์ | ผลตอบแทนพร้อมสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อสังคม/สิ่งแวดล้อม | เน้นผลตอบแทนสูงสุดในเชิงการเงินเท่านั้น | สนับสนุนการเติบโตของอุตสาหกรรมเป้าหมาย | ให้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีที่อ้างอิง |
ตัวอย่างการลงทุน | บริษัทที่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก/ใช้พลังงานหมุนเวียน | บริษัทที่ให้ผลตอบแทนสูง | บริษัทเทคโนโลยีหรือพลังงาน | หุ้นทุกตัวในดัชนี SET50, S&P 500 เป็นต้น |
กลุ่มเป้าหมายนักลงทุน | นักลงทุนที่ใส่ใจความยั่งยืนและผลกระทบทางสังคม | นักลงทุนที่มุ่งเน้นผลตอบแทนการเงินเป็นหลัก | นักลงทุนที่เชื่อในศักยภาพของอุตสาหกรรมเป้าหมาย | นักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงอย่างกว้างขวาง |
ความเสี่ยง | ต่ำ-ปานกลาง: บริษัทในพอร์ตมีการบริหารความเสี่ยงดี | ปานกลาง-สูง: เน้นผลตอบแทนสูง | ปานกลาง-สูง: ความเสี่ยงขึ้นกับกลุ่มอุตสาหกรรม | ต่ำ-ปานกลาง: ขึ้นอยู่กับดัชนีที่อ้างอิง |
ผลตอบแทนระยะยาว | มีความยั่งยืนและมั่นคงกว่าในระยะยาว | อาจมีความผันผวนสูงในระยะยาว | ขึ้นอยู่กับการเติบโตของกลุ่มธุรกิจเป้าหมาย | ใกล้เคียงกับผลตอบแทนของดัชนีที่ติดตาม |
สรุปข้อแตกต่างสำคัญ
- แนวคิดการลงทุน:
- กองทุน ThaiESG มุ่งเน้นความยั่งยืนทั้งในด้านการเงินและผลกระทบทางสังคม ในขณะที่กองทุนทั่วไปมุ่งเน้นเฉพาะผลตอบแทนทางการเงิน
- การคัดเลือกหุ้น:
- กองทุน ThaiESG ใช้เกณฑ์ ESG Screening ในการเลือกหุ้น ส่วนกองทุนทั่วไปและกองทุนดัชนีมักเน้นผลตอบแทนหรือการติดตามดัชนี
- กลุ่มเป้าหมาย:
- นักลงทุนที่ใส่ใจด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมจะเลือก ThaiESG ขณะที่นักลงทุนทั่วไปหรือผู้ต้องการผลตอบแทนจากกลุ่มอุตสาหกรรมเฉพาะจะเลือกกองทุนอื่น ๆ
- ผลตอบแทนระยะยาว:
- กองทุน ThaiESG มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนระยะยาวที่มั่นคงกว่า ด้วยการลดความเสี่ยงเชิงสิ่งแวดล้อมและสังคม
ภาพที่ 3 ทำความเข้าใจเงื่อนไขในการรับสิทธิลดหย่อนภาษีของกองทุน ThaiESG
การลดหย่อนภาษี: สิทธิประโยชน์ที่นักลงทุนต้องรู้
นอกจากกำไรที่เพิ่มพูนแล้ว สิทธิในการลดหย่อนภาษีคงเป็นอีกผลประโยชน์ที่นักลงทุนซึ่งมีรายได้พึงประเมินอยู่ในเกณฑ์ต้องชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาคาดหวัง สำหรับการลงทุนในกองทุนรวม ThaiESG มีข้อกำหนดใดบ้างที่นักลงทุนควรรู้ เพื่อจะได้พิจารณาและวางแผนการลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เงื่อนไขและข้อกำหนดในการลงทุนกองทุน ThaiESG เพื่อลดหย่อนภาษี
- ประเภทของกองทุน:
- หากกองทุน ThaiESG จดทะเบียนเป็น SSF หรือ RMF จะสามารถใช้ลดหย่อนภาษีได้
- ระยะเวลาการถือครอง:
- กองทุน SSF: ต้องถือครองอย่างน้อย 10 ปีเต็ม (ไม่จำเป็นต้องต่อเนื่อง)
- กองทุน RMF: ต้องถือครองจนถึงอายุ 55 ปีบริบูรณ์ และลงทุนอย่างน้อย 1 ครั้งต่อปี
- วงเงินการลงทุน:
- SSF: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 200,000 บาทต่อปี
- RMF: ลดหย่อนได้ไม่เกิน 30% ของรายได้พึงประเมิน หรือไม่เกิน 500,000 บาทต่อปี รวมกับการออมในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (Provident Fund)
- การปฏิบัติตามกฎหมาย:
- นักลงทุนต้องเก็บเอกสารการลงทุนและแจ้งข้อมูลกับกรมสรรพากรในช่วงการยื่นภาษี
ภาพที่ 4 เรียนรู้เหตุผลว่าทำไมนักลงทุนยุคใหม่ให้ความสนใจกองทุน ThaiESG
เหตุผลที่นักลงทุนยุคใหม่เลือกกองทุนรวม ThaiESG
การเลือกลงทุนตามเทรนด์เป็นอีกแนวทางที่ช่วยสร้างผลตอบแทนให้กับนักลงทุนมือใหม่ได้ ด้วยการเกาะกระแสแนวโน้มที่กำลังได้รับความนิยม ซึ่งมีเหตุผลใดที่กองทุนรวม ThaiESG ถึงเป็นที่โดนใจของนักลงทุนยุคใหม่ เราจะช่วยหาคำตอบ เพื่อคลายข้อสงสัยให้กับคุณ
- กองทุนรวม ThaiESG มีการจัดการความเสี่ยงที่ดีกว่า
- บริษัทที่ผ่านเกณฑ์ ESG มักบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลอย่างมีประสิทธิภาพ
- ลดความเสี่ยงจากปัญหาด้านกฎหมาย การบริหารจัดการที่ไม่โปร่งใส และผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- กองทุนรวม ThaiESG ให้ผลตอบแทนที่ยั่งยืน
- กองทุน ESG มุ่งเน้นบริษัทที่มีศักยภาพในระยะยาวและความมั่นคงสูง
- มีแนวโน้มสร้างผลตอบแทนที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับกองทุนทั่วไป
- กองทุนรวม ThaiESG มุ่งตอบสนองต่อพฤติกรรมผู้บริโภคที่ใส่ใจด้านความยั่งยืน
- นักลงทุนยุคใหม่สนใจลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนความยั่งยืน เพื่อให้สอดคล้องกับค่านิยมส่วนตัว
- มีผลวิจัยสนับสนุนว่ากองทุนรวม ThaiESG สามารถเพิ่มผลตอบแทนระยะยาว
- หลายงานวิจัยชี้ให้เห็นว่า กองทุนที่มีการประเมิน ESG ช่วยเพิ่มผลตอบแทนในระยะยาว โดยลดความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายหรือสภาพแวดล้อม
ภาพที่ 5 ศึกษาปัจจัยในการพิจารณาเพื่อเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG
วิธีเลือกลงทุนในกองทุน ThaiESG อย่างชาญฉลาด
จะเลือกซื้ออะไร ก็ต้องมีเกณฑ์เบื้องต้นในใจก่อนว่า เราจะพิจารณาถึงอะไรบ้าง สำหรับการเลือกลงทุนในกองทุนรวม ThaiESG มีปัจจัยที่เป็นกรอบซึ่งจะช่วยให้คุณประเมินได้ว่า กองทุนแบบใดที่ตรงใจ และให้ผลลัพธ์ได้ตามที่คุณคาดหวัง
ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนเลือกกองทุน ThaiESG
1. เป้าหมายการลงทุนและกลยุทธ์ของกองทุนสอดคล้องต่อแนวทาง ESG หรือไม่
- ความสอดคล้องกับเป้าหมายส่วนตัว: นักลงทุนควรพิจารณาว่ากองทุนมีวัตถุประสงค์ในการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายทางการเงินและความสนใจในด้าน ESG หรือไม่
- กลยุทธ์การลงทุน: ตรวจสอบว่ากองทุนมีการเลือกลงทุนในบริษัทที่มีการปฏิบัติตามมาตรฐาน ESG ที่เข้มงวดหรือไม่
2. ผลการดำเนินงานของกองทุนมีเสถียรภาพในการให้ผลตอบแทนหรือไม่
- ผลตอบแทนย้อนหลัง: ดูผลการดำเนินงานย้อนหลังในช่วงระยะเวลาต่างๆ (เช่น 1 ปี, 3 ปี, 5 ปี) เพื่อตรวจสอบความเสถียรและประสิทธิภาพในการให้ผลตอบแทน
- การเปรียบเทียบกับดัชนีอ้างอิง: เปรียบเทียบผลการดำเนินงานของกองทุนกับดัชนีอ้างอิง (เช่น SET ESG Index) เพื่อดูว่าเป็นกองทุนที่สามารถสร้างผลตอบแทนเหนือระดับเฉลี่ยของตลาดได้หรือไม่
3. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายของกองทุนสมเหตุสมผลหรือไม่
- ค่าธรรมเนียมการจัดการ: ค่าธรรมเนียมที่กองทุนเรียกเก็บจะมีผลต่อผลตอบแทนสุดท้ายของนักลงทุน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าเป็นค่าธรรมเนียมที่สมเหตุสมผล
- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ: ค่าธรรมเนียมการซื้อขาย, ค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลง หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่อาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนรวม
4. ความเสี่ยงอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ไหม
- ความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น: กองทุน ThaiESG ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยอาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาดหุ้นไทย
- ความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก: เช่น ความเสี่ยงด้านกฎระเบียบ, ความผันผวนของราคาสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับ ESG
5. ระยะเวลาการถือครองกี่ปี
- ระยะเวลาในการลงทุน: กองทุนบางประเภทอาจมีข้อกำหนดในการถือครองหน่วยลงทุนอย่างน้อย 5 ปี เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ควรตรวจสอบเงื่อนไขนี้ก่อนตัดสินใจ
6. กองทุนมีความโปร่งใสในการจัดการ
- รายงานการจัดการกองทุน: กองทุนควรมีรายงานผลการดำเนินงานและข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการลงทุนอย่างโปร่งใส
- การรายงานด้าน ESG: ตรวจสอบการเปิดเผยข้อมูลด้าน ESG ของกองทุนว่ามีความโปร่งใสในการติดตามและรายงานการลงทุนตามหลัก ESG หรือไม่
สรุป
แม้ว่าการลงทุนจะเป็นเรื่องยาก ซับซ้อน แต่หากค่อย ๆ เรียนรู้ ทำความเข้าใจไปในแต่ละประเด็นก็จะช่วยให้คุณสร้างผลตอบแทนได้ตามแผนที่ต้องการ โดยเฉพาะการลงทุนผ่านกองทุนรวม ThaiESG ที่นอกจากจะช่วยสนับสนุนบริษัทที่ใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาลแล้ว ก็ยังได้รับผลตอบแทนในรูปของผลกำไร และยังได้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ประโยชน์ 3 ต่อแบบนี้ ใครที่กำลังหาเครื่องมือการเงินเพื่อใช้เงินทำงานก็ควรลองพิจารณาไว้เป็นทางเลือก
แหล่งข้อมูลอ้างอิง
Finnomena. กองทุน Thai ESG คืออะไร? ลดหย่อนภาษีแบบใหม่ เทียบกับ SSF RMF ต่างกันอย่างไร https://www.finnomena.com/finnomenafunds/what-is-tesg/
Set Invest Now. กองทุน Thai ESG ดีไหม? ควรลงทุนเท่าไหร่ดี https://www.setinvestnow.com/th/knowledge/article/601-tsi-thai-esg-fund-investment-guide-for-beginners
กรุงเทพประกันชีวิต. สรุปครบกับกองทุน Thai ESG
https://www.bangkoklife.com/online/th/articles/finance/thailand-esg-fund-2024